Isekai Maou To Shoukan Shoujo No Dorei Majutsu Ω (2021) จอมมารต่างโลกกับบริวารสาวนักอัญเชิญ ซาคาโมโตะ ทาคุมะ

Animation Adventure Comedy Fantasy อนิเมะญี่ปุ่น อนิเมะซับไทย อนิเมะที่จบแล้ว

5.1/10

ดูอนิเมะ Isekai Maou To Shoukan Shoujo No Dorei Majutsu Ω (2021) จอมมารต่างโลกกับบริวารสาวนักอัญเชิญ ซาคาโมโตะ ทาคุมะ EP1 - EP10

7,905

ขอให้ทุกคนดูหนังให้สนุกนะคะ

เรื่องย่อ : ซาคาโมโตะ ทาคุมะ ชายหนุ่มที่เป็นยอดฝีมือในเกมแนว MMORPG ยอดนิยมที่ชื่อว่า Cross Reverie ภายในเกมเขามีตัวละครในชื่อ เดียโบล จอมมารที่แข็งแกร่งที่สุดและไม่มีใครสามารถล้มเขาได้ ด้วยพลังมหาศาลและอุปกรณ์ระดับสูง ทำให้เขากลายเป็นตำนานในหมู่ผู้เล่น อย่างไรก็ตาม วันหนึ่ง ทาคุมะถูกอัญเชิญไปยังโลกที่ไม่รู้จัก ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับเกมที่เขาเล่นอยู่ ที่นั่น เขาได้พบกับสองสาว เชร่า ลี กรีนวู้ด เอลฟ์สาวสุดเซ็กซี่ และ เรม กาเลอู สาวเผ่ามนุษย์สัตว์ที่แข็งแกร่ง ทั้งคู่เป็นผู้ที่อัญเชิญเขามาและพยายามทำให้เขากลายเป็นทาสของพวกเธอ อย่างไรก็ตาม คาถาทาสที่พวกเธอใช้กับทาคุมะกลับสะท้อนกลับไปที่ตัวพวกเธอแทน เนื่องจากทาคุมะมีแหวนเวทมนตร์พิเศษที่สามารถสะท้อนเวทมนตร์ทั้งหมดกลับไปยังผู้ร่าย ทำให้เชร่าและเรมกลายเป็นทาสของเขาแทน ซึ่งทำให้เกิดสถานการณ์ที่ทั้งตลกและวุ่นวายขึ้น ด้วยความที่ทาคุมะเป็นคนเข้าสังคมไม่เก่งและขี้อายมาก เขาจึงต้องเล่นบท "เดียโบล" จอมมารผู้แข็งแกร่งและเยือกเย็น เพื่อปกปิดความประหม่าและไม่ให้ใครดูถูกเขาได้ หลังจากการเดินทางและต่อสู้ในภาคแรก ทาคุมะหรือเดียโบลสามารถช่วยเหลือเชร่าและเรมจากปัญหาต่างๆ ได้ ทั้งการช่วยเชร่าจากอาณาจักรของเธอที่ต้องการให้เธอเป็นราชินีเอลฟ์ และช่วยเรมกำจัดราชาปีศาจที่สิงอยู่ในร่างของเธอได้สำเร็จ แม้ว่าจะต้องใช้พลังมหาศาลในการต่อสู้ก็ตาม เดียโบล เชร่า และเรม ยังคงเดินทางไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดหมายที่แน่ชัด จนกระทั่งพวกเขาเดินทางมาถึง จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นอาณาจักรที่มีศาสนจักรเป็นศูนย์กลางของอำนาจ ที่นี่ พวกเขาได้พบกับ ลูมาจิน่า เวสเซล มหานักบวชหญิงของศาสนจักร ลูมาจิน่ากำลังถูกไล่ล่าโดยกลุ่มคนลึกลับที่ต้องการสังหารเธอ ด้วยความที่เธอเป็นผู้ศรัทธาในพระเจ้าอย่างแท้จริง เธอเชื่อว่าเดียโบลคือ "ผู้ที่ถูกส่งมาโดยพระเจ้า" เพื่อช่วยเหลือเธอ เดียโบล แม้จะไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดนัก แต่ด้วยบทบาทที่เขาสวมเป็น "จอมมาร" ที่แข็งแกร่งและไม่มีใครเทียบได้ เขาจึงยอมช่วยลูมาจิน่า และพาเธอไปยังโบสถ์ที่ปลอดภัย ขณะที่เดียโบลกำลังพยายามช่วยเหลือลูมาจิน่า เขากลับต้องพบว่าศาสนจักรที่ควรจะเป็นองค์กรที่บริสุทธิ์และปกป้องประชาชน กลับเต็มไปด้วยการคอร์รัปชัน บรรดาบิชอปและบาทหลวงระดับสูงต่างใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและกดขี่ประชาชน มีข่าวลือว่าบิชอปบางคนกำลังร่วมมือกับปีศาจเพื่อเพิ่มอำนาจของตนเอง ศัตรูหลักของเดียโบลในภาคนี้คือ บิชอปวีสรอส ผู้นำของฝ่ายเคร่งศาสนาในจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ วีสรอสเป็นบุคคลที่ชั่วร้ายและต้องการใช้พลังของพระเจ้าในการควบคุมประชาชนแทนที่จะปกป้องพวกเขา เขามีทหารรับใช้ที่แข็งแกร่งและนักเวทที่สามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้ เดียโบลต้องต่อสู้กับกองกำลังของศาสนจักร รวมถึงพวกปีศาจที่บิชอปวีสรอสร่วมมือด้วย นอกจากวีสรอสแล้ว เดียโบลยังต้องเผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูงที่ชื่อว่า วารัค วารัคเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งและมีพลังใกล้เคียงกับจอมมาร เขามีเป้าหมายที่จะทำลายศาสนจักรและปลดปล่อยพลังแห่งความมืดเข้าสู่โลก มันต้องการครอบครองพลังของลูมาจิน่าเพื่อใช้ในการปลุกชีพราชาปีศาจที่ถูกผนึกเมื่อหลายร้อยปีก่อน ระหว่างการต่อสู้ เดียโบลต้องงัดพลังที่แท้จริงของเขาออกมาเพื่อเผชิญหน้ากับวารัคและทหารปีศาจของมัน แม้ว่าเขาจะมีพลังที่เหนือกว่าคู่ต่อสู้ส่วนใหญ่ แต่การต่อสู้กับวารัคกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะวารัคสามารถดูดซับพลังเวทมนตร์ของศัตรูและใช้มันโจมตีคืนได้ ทำให้แม้แต่เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเดียโบลก็อาจไม่สามารถเอาชนะมันได้ง่ายๆ ในระหว่างการเดินทาง เดียโบลได้พบกับพันธมิตรใหม่ที่เข้ามาช่วยเหลือพวกเขา หนึ่งในนั้นคือ ฮอร์น สาวน้อยนักเวทฝึกหัดที่แอบชื่นชมเดียโบลและอยากเรียนรู้เวทมนตร์จากเขา เธอเป็นเด็กสาวที่มีความสามารถแต่ยังขาดประสบการณ์ และต้องการพิสูจน์ตนเองว่าเธอสามารถเป็นนักเวทที่แท้จริงได้ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างเดียโบลและวารัคเป็นศึกที่ดุเดือด เดียโบลต้องใช้พลังทั้งหมดที่มี รวมถึงการผสานพลังของเชร่า เรม และลูมาจิน่า เพื่อเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยเผชิญมา ในที่สุด เดียโบลสามารถล้มวารัคลงได้ และทำลายแผนการคืนชีพราชาปีศาจของมัน ศาสนจักรถูกชำระล้างจากการคอร์รัปชัน และลูมาจิน่าสามารถฟื้นฟูความศรัทธาของประชาชนต่อศาสนาได้อีกครั้ง หลังจากการต่อสู้ เดียโบล เชร่า และเรม ยังคงออกเดินทางต่อไป โดยที่เขายังคงรับบทบาทเป็น "จอมมาร" ผู้ไร้เทียมทาน แม้ว่าในใจลึกๆ แล้ว เขายังคงเป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดาที่ไม่เก่งเรื่องการเข้าสังคม และยังคงต้องพยายามอย่างหนักในการรักษาภาพลักษณ์ของจอมมารผู้เก่งกาจเอาไว้