Apocalypse Now (1979) กองทัพอำมหิต

8.4/10

ดูหนัง Apocalypse Now (1979) กองทัพอำมหิต พากย์ไทย

50.39K

ขอให้ทุกคนดูหนังให้สนุกนะคะ

เรื่องย่อ : Apocalypse Now (1979) กองทัพอำมหิต เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดความน่าสะพรึงของสงครามเวียดนามได้อย่างทรงพลังและเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่ตราตรึงใจผู้ชมตลอดกาล กำกับโดย ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ผู้มีชื่อเสียงจากผลงานชั้นครูอย่าง The Godfather เรื่องราวนี้นำเสนอภาพของสงครามที่ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความโหดร้ายและไร้ศีลธรรมของมนุษย์ในสนามรบ แต่ยังพาผู้ชมดำดิ่งเข้าสู่จิตใจที่บิดเบี้ยวของตัวละครที่ติดอยู่ในความมืดมิดของสงคราม เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ร้อยเอกวิลลาร์ด (มาร์ติน ชีน) เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของกองทัพสหรัฐ ถูกมอบหมายภารกิจที่เต็มไปด้วยอันตราย เขาต้องล่องเรือไปตามแม่น้ำนัง ผ่านเขตสงครามและชายแดนประเทศกัมพูชา เพื่อตามหา พันเอกเคิร์ซ (มาร์ลอน แบรนโด) อดีตนายทหารผู้เคยได้รับการยกย่องอย่างสูง แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าเขาได้เสียสติและกลายเป็นศัตรูกับประเทศตัวเอง ระหว่างการเดินทาง วิลลาร์ดต้องเผชิญหน้ากับภาพความโหดร้ายของสงครามที่แสดงออกผ่านทั้งฉากการโจมตีของศัตรู การเผชิญหน้ากับกลุ่มคนท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม และความบ้าคลั่งของเพื่อนร่วมทางที่ค่อยๆ แสดงออกมาอย่างเด่นชัด ยิ่งเขาเดินทางลึกเข้าไปในเขตป่า ความบ้าคลั่งและไร้ศีลธรรมของสงครามยิ่งเผยให้เห็นเด่นชัดมากขึ้น เมื่อวิลลาร์ดเข้าใกล้เคิร์ซมากขึ้น เขาไม่เพียงแต่ได้พบกับความโหดร้ายที่พันเอกเคิร์ซสร้างขึ้น แต่ยังต้องเผชิญหน้ากับด้านมืดในจิตใจของตัวเอง เคิร์ซสร้างอาณาจักรเล็กๆ ขึ้นในป่าลึกซึ่งเต็มไปด้วยผู้ติดตามที่ยอมสยบต่ออำนาจของเขา ความบ้าคลั่งและความชั่วร้ายของเคิร์ซสะท้อนถึงผลกระทบของสงครามที่สามารถเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นสิ่งที่ไร้ศีลธรรมได้ การเดินทางของวิลลาร์ดกลายเป็นการสำรวจจิตวิญญาณของมนุษย์ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ภาพยนตร์สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนในจิตใจของมนุษย์ ความขัดแย้งระหว่างหน้าที่ ความเป็นมนุษย์ และแรงผลักดันในจิตใต้สำนึกที่ค่อยๆ เปิดเผยออกมา ผลงานชิ้นนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่กดดันและเสียงดนตรีที่สะท้อนถึงความหวาดกลัวและความโกลาหล การแสดงของนักแสดงนำ โดยเฉพาะ มาร์ลอน แบรนโด ในบทพันเอกเคิร์ซ และ มาร์ติน ชีน ในบทร้อยเอกวิลลาร์ด ถ่ายทอดอารมณ์ที่ซับซ้อนและทรงพลังได้อย่างยอดเยี่ยม ในปี 2001 Apocalypse Now Redux ถูกนำมาปรับปรุงและขยายความยาวเพิ่มขึ้นอีก 49 นาที โดยเพิ่มฉากใหม่ๆ ที่ช่วยขยายมิติของตัวละครและสถานการณ์ในเรื่องให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผลงานเวอร์ชันนี้ยังคงรักษาแก่นแท้ของเรื่องราวไว้ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มมิติใหม่ที่ทำให้ภาพยนตร์สมบูรณ์ยิ่งขึ้น Apocalypse Now ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์สงคราม แต่เป็นการสำรวจจิตวิญญาณของมนุษย์ท่ามกลางความบ้าคลั่งของสงคราม เรื่องราวนี้ไม่ได้สะท้อนเพียงแค่ความโหดร้ายของการต่อสู้ แต่ยังเป็นการตั้งคำถามถึงความหมายของมนุษยธรรมในโลกที่เต็มไปด้วยความไร้ศีลธรรม ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงเป็นหนึ่งในผลงานที่ทรงคุณค่าที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์และยังคงตราตรึงใจผู้ชมทั่วโลก