Freuds Last Session (2023) บทสนทนาสุดท้ายของฟรอยด์

Movie2Free : Film : Drama

Drama Sony Pictures Classics หนังฝรั่ง

6.1/10

ดูหนัง Freuds Last Session (2023) บทสนทนาสุดท้ายของฟรอยด์ ซับไทย

156

สำคัญมาก! เผื่อเว็บบินโดนปิด เข้ากลุ่ม

Discord เพื่อประโยชน์ของท่านผู้ชม

เรื่องย่อ : Freud's Last Session หรือในชื่อไทยว่า บทสนทนาสุดท้ายของฟรอยด์ เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวสมมุติที่เกิดขึ้นในกรุงลอนดอน ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ภาพยนตร์เริ่มต้นในปี 1939 ขณะที่ความตึงเครียดในยุโรปกำลังเพิ่มสูงขึ้น ซิกมันด์ ฟรอยด์ (รับบทโดย แอนโทนี ฮอปกินส์) นักจิตวิเคราะห์ชื่อดังในวัย 83 ปี ผู้กำลังเผชิญกับความเจ็บป่วยจากโรคมะเร็งช่องปาก ได้ตัดสินใจเชิญ ซี. เอส. ลูอิส (รับบทโดย แมทธิว กู๊ด) นักเขียนชาวอังกฤษและนักวิชาการที่มีชื่อเสียง ผู้ซึ่งในเวลานั้นเริ่มมีชื่อเสียงจากงานเขียนเกี่ยวกับศาสนา มาพูดคุยกันในช่วงเวลาสำคัญของชีวิตทั้งสอง การพบปะระหว่างฟรอยด์และลูอิสเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาที่ลึกซึ้งและเต็มไปด้วยปรัชญาเกี่ยวกับหัวข้อที่ซับซ้อน เช่น ความเชื่อทางศาสนา การดำรงอยู่ของพระเจ้า และธรรมชาติของมนุษย์ ฟรอยด์ ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะบิดาแห่งจิตวิเคราะห์ และเป็นผู้ที่ไม่เชื่อในศาสนา มองว่าศาสนาเป็นเพียงการสร้างขึ้นของมนุษย์เพื่อจัดการกับความกลัวและความไม่แน่นอนของชีวิต ขณะที่ลูอิส ผู้ซึ่งในเวลานั้นยังไม่เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เขียน The Chronicles of Narnia เป็นนักวิชาการที่มีความเชื่อมั่นในศาสนาคริสต์ และเชื่อว่าพระเจ้าเป็นแหล่งของความจริงและความรัก ในขณะที่ฟรอยด์และลูอิสพูดคุยกันในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของฟรอยด์ บทสนทนาของพวกเขาค่อย ๆ เปิดเผยมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับชีวิตและความตาย ฟรอยด์พูดถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่ทำให้เขาไม่เชื่อในศาสนา รวมถึงความเจ็บปวดที่เขาได้รับจากการสูญเสียลูกสาวของเขาในวัยเด็ก และความรู้สึกโดดเดี่ยวที่เกิดจากการเผชิญหน้ากับความตายที่ใกล้เข้ามา ในอีกด้านหนึ่ง ลูอิสเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเขา จากการที่เคยเป็นคนไม่เชื่อในพระเจ้าไปสู่การกลับมามีความเชื่อศรัทธาอีกครั้ง เขาพูดถึงความสุขและความหวังที่ศรัทธาในพระเจ้าได้นำมาให้เขา และแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าศาสนาไม่ใช่เพียงเครื่องมือในการจัดการกับความกลัว แต่เป็นสิ่งที่สามารถนำความหมายมาสู่ชีวิตได้ บทสนทนาไม่ได้มีเพียงแต่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางปรัชญาเท่านั้น แต่ยังสำรวจถึงความเป็นมนุษย์ของทั้งสอง ฟรอยด์แม้จะมีความเป็นนักเหตุผลนิยม แต่ก็แสดงออกถึงความอ่อนแอทางอารมณ์และความกลัวต่อความตาย ขณะที่ลูอิส แม้จะเป็นผู้มีศรัทธาในพระเจ้า ก็ต้องเผชิญกับคำถามที่เขาเองยังหาคำตอบไม่ได้ ระหว่างการพูดคุย ฟรอยด์ตั้งคำถามเกี่ยวกับการมีอยู่ของพระเจ้า และเสนอว่าพระเจ้าอาจเป็นเพียงจินตนาการที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อให้มีคำตอบต่อคำถามที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ เขาชี้ให้เห็นถึงความโหดร้ายและความไม่ยุติธรรมในโลกว่าเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าไม่สามารถมีอยู่ได้ ขณะที่ลูอิสโต้กลับว่า ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานในโลกนี้ไม่ใช่หลักฐานของการไม่มีพระเจ้า แต่เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องเรียนรู้และเติบโต ในขณะที่บทสนทนาดำเนินไป ฟรอยด์และลูอิสเริ่มเปิดเผยด้านที่ลึกซึ้งของตนเอง ฟรอยด์พูดถึงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับพ่อของเขา และความรู้สึกผิดที่เขาไม่สามารถช่วยลูกสาวของเขาได้ ขณะที่ลูอิสพูดถึงความเจ็บปวดที่เขารู้สึกจากการสูญเสียแม่ในวัยเด็ก และความยากลำบากที่เขาเผชิญในการค้นหาความเชื่อมั่นในศาสนา การพูดคุยระหว่างฟรอยด์และลูอิสไม่ได้จบลงด้วยข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับการมีอยู่ของพระเจ้า แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับคือความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับกันและกัน และความซับซ้อนของชีวิตมนุษย์ ฟรอยด์ แม้จะยังไม่เชื่อในพระเจ้า แต่ก็เริ่มเปิดใจรับฟังมุมมองของลูอิส ในขณะที่ลูอิสเรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าของการใช้เหตุผลและวิทยาศาสตร์ในฐานะเครื่องมือในการเข้าใจโลก Freud's Last Session เป็นภาพยนตร์ที่สำรวจหัวข้อที่ซับซ้อนและท้าทายเกี่ยวกับศาสนา ความเชื่อ และปรัชญาชีวิต ผ่านบทสนทนาที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยอารมณ์ ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม แต่ยังกระตุ้นให้ผู้ชมตั้งคำถามและไตร่ตรองเกี่ยวกับความหมายของชีวิตและความเชื่อของตนเอง ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมจากแอนโทนี ฮอปกินส์และแมทธิว กู๊ด Freud's Last Session เป็นผลงานที่โดดเด่นในแง่ของการเล่าเรื่องและการพัฒนาตัวละคร และเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบเรื่องราวที่ลึกซึ้งและมีความหมาย