The Italian Job (1969) ปล้นเย้ยฟ้า

7.2/10

ดูหนัง The Italian Job (1969) ปล้นเย้ยฟ้า พากย์ไทย

22.62K

ขอให้ทุกคนดูหนังให้สนุกนะคะ

เรื่องย่อ : ในโลกของอาชญากรรมที่เต็มไปด้วยแผนการแยบยลและการปล้นที่ต้องอาศัยความชาญฉลาด The Italian Job (1969) ปล้นเย้ยฟ้า ถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นแบบของภาพยนตร์ปล้นยุคใหม่ ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ฉากแอ็กชันสุดระทึก และบทสนทนาที่เฉียบคม เรื่องราวของ The Italian Job เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Charlie Croker (ไมเคิล เคน) อาชญากรจอมเจ้าเล่ห์ ได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจขโมยทองคำมูลค่ามหาศาลจากขบวนรถบรรทุกในเมืองตูริน ประเทศอิตาลี ซึ่งภารกิจนี้เป็นแผนการที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย Beckermann อาชญากรอัจฉริยะที่ถูกลอบสังหารโดยมาเฟียก่อนที่จะสามารถดำเนินแผนให้สำเร็จ Croker จึงต้องสานต่อภารกิจนี้ และดึงทีมงานระดับหัวกะทิมาร่วมแผนการ การรวบรวมทีมและแผนปล้นที่กล้าบ้าบิ่น Croker ไม่สามารถทำภารกิจนี้เพียงลำพังได้ เขาจึงต้องรวบรวมทีมงานที่มีความสามารถเฉพาะด้าน โดยมี Bridger (โนเอล โคเวิร์ด) หัวหน้าแก๊งมาเฟียอังกฤษที่ควบคุมอาชญากรรมจากภายในเรือนจำ เป็นผู้สนับสนุนหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมี Professor Peach (เบนนี่ ฮิลล์) นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่มีความสามารถในการควบคุมระบบจราจร และช่างเครื่องที่สามารถดัดแปลงรถยนต์ให้เหมาะกับภารกิจสุดระห่ำนี้ แผนปล้นของพวกเขาไม่ใช่แค่การใช้กำลังเข้าจู่โจม แต่เป็นการใช้เทคนิคที่ซับซ้อน พวกเขาวางแผนสร้างความโกลาหลโดยการแฮกระบบจราจรของเมืองตูรินให้ติดขัด ทำให้รถบรรทุกที่บรรทุกทองคำไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ขณะที่การจราจรเป็นอัมพาต ทีมงานของ Croker ก็เข้าทำการปล้นโดยใช้รถ Mini Cooper สามคันเป็นยานพาหนะหลักในการขนทองออกจากที่เกิดเหตุ ฉากไล่ล่าระดับตำนาน หนึ่งในฉากที่เป็นไฮไลต์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือฉากไล่ล่าบนถนนและทางด่วนของเมืองตูริน รถ Mini Cooper ทั้งสามคันที่ถูกดัดแปลงให้สามารถบรรทุกทองคำได้นั้น ขับซิ่งไล่ล่าหลบหนีตำรวจผ่านซอยแคบ ๆ บันได และแม้กระทั่งลอดผ่านอุโมงค์ รถแต่ละคันถูกขับด้วยความเร็วสูงผ่านอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งกีดขวาง การหลบเลี่ยงตำรวจอิตาลี และการขับผ่านสถานที่สำคัญของเมือง ทำให้ฉากนี้กลายเป็นหนึ่งในฉากไล่ล่าที่คลาสสิกที่สุดของวงการภาพยนตร์ จุดหักมุมและฉากจบที่ตราตรึง หลังจากการไล่ล่าอันบ้าคลั่ง ทีมของ Croker สามารถหนีออกจากเมืองได้สำเร็จ โดยใช้รถบัสเป็นพาหนะหลักในการขนทอง อย่างไรก็ตาม เรื่องราวกลับพลิกผัน เมื่อรถบัสเกิดเสียการควบคุมและไปจอดค้างอยู่บนหน้าผาโดยที่ทองทั้งหมดไปกองอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของรถ ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ตึงเครียดที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ฉากจบของ The Italian Job กลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมันจบลงด้วย Cliffhanger หรือปล่อยให้คนดูจินตนาการต่อเองว่า Charlie Croker และทีมของเขาจะสามารถเอาทองออกมาได้หรือไม่ โดยเขากล่าวประโยคสุดท้ายของภาพยนตร์ว่า “Hold on lads, I’ve got a great idea.” (ใจเย็น ๆ พวก ฉันมีไอเดียเด็ด ๆ แล้ว) อิทธิพลและมรดกของภาพยนตร์ The Italian Job (1969) ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ปล้นธรรมดา แต่มันกลายเป็นต้นแบบของภาพยนตร์แนว heist ในยุคต่อ ๆ มา เช่น Ocean’s Eleven และ Fast & Furious นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังสร้างกระแสความนิยมให้กับรถ Mini Cooper จนกลายเป็นไอคอนของวงการยานยนต์ในช่วงนั้น ในปี 2003 The Italian Job ได้ถูกนำมาสร้างใหม่โดยมี มาร์ก วอห์ลเบิร์ก, ชาร์ลิซ เธอรอน และเจสัน สเตแธม นำแสดง แม้ว่าจะเป็นเวอร์ชันที่มีการปรับเปลี่ยนโครงเรื่องให้ทันสมัยขึ้น แต่ต้นฉบับในปี 1969 ก็ยังคงถูกยกย่องว่าเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุด สรุป The Italian Job (1969) ปล้นเย้ยฟ้า เป็นหนึ่งในภาพยนตร์แนวปล้นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ด้วยการวางแผนที่ชาญฉลาด ฉากไล่ล่าที่เร้าใจ และตอนจบที่ทำให้ผู้ชมต้องขบคิดต่อเอง ทำให้มันเป็นภาพยนตร์ที่ยังคงถูกพูดถึงจนถึงทุกวันนี้ หากคุณเป็นแฟนของภาพยนตร์แนว heist และยังไม่เคยดูเรื่องนี้ ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่คุณไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด!